Cryptocurrency

รีวิวการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทำไมจึงมีความน่าสนใจ

รีวิวการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
Written by TuiInvest2morrow

รีวิวการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทำไมจึงมีความน่าสนใจ

รีวิวการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนที่มองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายพอร์ตการลงทุนของพวกเขา สินทรัพย์ดิจิทัลไม่เพียงแค่เป็นเทรนด์ แต่ยังเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่มีศักยภาพสูง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนที่มีความรู้และความเข้าใจในตลาดนี้ บทความนี้จะนำเสนอรีวิวเจาะลึกเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยใช้ข้อมูลปัจจุบันจากประเทศไทยและตลาดโลก พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าทำไมการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลถึงมีความน่าสนใจอย่างยิ่งในยุคนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลคืออะไร?

สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) คือสินทรัพย์ที่มีรูปแบบดิจิทัลหรืออยู่บนระบบบล็อกเชน (Blockchain) โดยสามารถเป็นได้ทั้งคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) เช่น Bitcoin, Ethereum, Stablecoin และโทเค็น (Token) ที่ใช้ในแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance หรือ DeFi) สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้มีคุณสมบัติที่ทำให้แตกต่างจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น หุ้นหรือทองคำ โดยเฉพาะความสามารถในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและไร้ขอบเขต

นอกจากนี้ บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังสินทรัพย์ดิจิทัล ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายที่โปร่งใสและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (Immutable) ทำให้การทำธุรกรรมทุกครั้งถูกบันทึกและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในระบบการเงินดิจิทัล

ความน่าสนใจของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

ผลตอบแทนที่สูงและโอกาสการเติบโต

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นที่น่าสนใจคือผลตอบแทนที่สูง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาของคริปโตเคอร์เรนซีบางตัว เช่น Bitcoin และ Ethereum เติบโตอย่างมาก ตัวอย่างเช่น Bitcoin ที่มีมูลค่าจากเพียงไม่กี่เซนต์ในปี 2009 เติบโตจนถึงมูลค่าหลักหลายหมื่นดอลลาร์ในปี 2023 สร้างโอกาสการเติบโตที่มากกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น

นอกจากนี้ ด้วยความที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเป็นตลาดใหม่ มีโอกาสการเติบโตในด้านเทคโนโลยีและการนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้จึงมีโอกาสสูงที่จะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ

ความยืดหยุ่นและการเข้าถึงง่าย

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถทำได้ง่ายดายผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency Exchange) ที่มีให้บริการอย่างกว้างขวางในประเทศไทย เช่น Bitkub, Satang Pro, หรือ Binance ซึ่งทำให้ทั้งนักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์เหล่านี้ได้โดยสะดวกและรวดเร็ว

นอกจากนี้ การทำธุรกรรมสามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ไม่เหมือนตลาดหุ้นที่มีช่วงเวลาเปิดปิด การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่น

การป้องกันความเสี่ยงในภาวะเงินเฟ้อ

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ Bitcoin มักถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงในภาวะเงินเฟ้อ (Hedge Against Inflation) เนื่องจาก Bitcoin มีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งต่างจากเงินเฟียต (Fiat Money) ที่สามารถพิมพ์เพิ่มได้ไม่จำกัด ปัจจัยนี้ทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากขึ้นเมื่อค่าเงินลดลงในช่วงเวลาที่เกิดเงินเฟ้อ

สำหรับประเทศไทย ซึ่งเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจในบางช่วง นักลงทุนจำนวนมากจึงเริ่มหันมาพิจารณาการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการสูญเสียมูลค่าของเงินบาท

นวัตกรรมทางการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi)

DeFi หรือ Decentralized Finance เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบการเงินที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง เช่น ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ นักลงทุนสามารถใช้ DeFi ในการกู้ยืม, ปล่อยกู้, หรือซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างอิสระและโปร่งใส

DeFi ยังเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนในการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆ เช่น โทเค็นที่ใช้ในแอปพลิเคชัน DeFi ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยกู้หรือทำฟาร์มโทเค็น (Yield Farming) ได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางทางการเงิน ทำให้ระบบ DeFi เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

ความเสี่ยงและข้อควรระวังในการลงทุน

แม้ว่าการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีศักยภาพสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่นักลงทุนควรคำนึงถึง เช่น ความผันผวนของราคา, การขาดการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, และความเสี่ยงในการถูกโจมตีทางไซเบอร์ นักลงทุนควรทำการศึกษาอย่างละเอียดก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าตนเองสามารถรับความเสี่ยงได้

ความผันผวนของราคา

สินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนของราคาสูงมาก ราคาของ Bitcoin หรือ Ethereum สามารถปรับตัวขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งนักลงทุนต้องมีความพร้อมที่จะรับมือกับความผันผวนนี้

การขาดการกำกับดูแล

ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยและทั่วโลกยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นในการพัฒนากฎระเบียบและการกำกับดูแล แม้ว่า ก.ล.ต. ของประเทศไทยจะมีบทบาทในการกำกับดูแลการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ในระดับโลกยังมีช่องว่างทางกฎหมายที่ทำให้บางครั้งนักลงทุนอาจพบกับปัญหาด้านความปลอดภัยหรือการหลอกลวง

ความเสี่ยงทางไซเบอร์

สินทรัพย์ดิจิทัลถูกเก็บรักษาไว้ในรูปแบบดิจิทัลผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ นักลงทุนควรเลือกใช้แพลตฟอร์มและกระเป๋าเงินที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง รวมถึงใช้วิธีการป้องกันเชิงเทคนิคต่างๆ เช่น การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2-Factor Authentication) เพื่อป้องกันการสูญเสียสินทรัพย์

กฎหมายและการกำกับดูแลในประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เริ่มต้นการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง โดยในปี 2018 ก.ล.ต. ได้ประกาศพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อกำกับดูแลการซื้อขาย การให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการออกโทเค็นที่ต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ การจัดเก็บภาษีจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่นักลงทุนในประเทศไทยต้องพิจารณา โดยในปัจจุบันการทำกำไรจากการขายคริปโตเคอร์เรนซีจะต้องเสียภาษีเงินได้ (Capital Gains Tax) ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรศึกษาก่อนทำการลงทุน

แนวโน้มในอนาคตของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

 

อนาคตของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลดูมีแนวโน้มที่สดใส ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ต่อเนื่อง รวมถึงการยอมรับในสินทรัพย์ดิจิทัลจากนักลงทุนและสถาบันการเงินในระดับโลก นอกจากนี้ แนวโน้มการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency หรือ CBDC) อาจจะเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

สำหรับประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เริ่มต้นการพัฒนาโครงการ CBDC ที่อาจนำมาใช้ในอนาคต การเปิดตัวของสกุลเงินดิจิทัลนี้อาจมีผลต่อการพัฒนาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศ

บทสรุป

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด แต่ทั้งนี้ นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และศึกษาตลาดอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมและลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

Spread the love

About the author

TuiInvest2morrow

Leave a Comment