หุ้น

9 แนวคิดลงทุนในหุ้นอย่างไรไม่ให้เจ๊ง

Written by invest2morrow

9 แนวคิดในการลงทุนในหุ้นอย่างไรให้ได้กำไรและลดความเสี่ยงของการขาดทุน การลงทุนในหุ้นแม้ว่าจะสร้างผลกำไรให้แก่นักลงทุนอย่างงดงาม

Spread the love

            หุ้น (stock) คือสินทรัพย์ที่กิจการหนึ่ง ๆออกให้แก่หุ้นส่วนเพื่อเป็นเครื่องหมายว่าคน ๆนั้นเป็นหุ้นส่วนที่ร่วมลงทุนกับกิจการ และจะทำการเปลี่ยนมือก็ต่อเมื่อเจ้าของเดิมได้ทำการขายสิทธิ์ในการแสดงความเป็นเจ้าของหุ้นนั้นหรือยกสิทธิ์ของตนไปสู่มือของผู้อื่น ในส่วนของการซื้อขายเปลี่ยนมือนั้นปัจจุบันมีตลาดกลางที่ทำหน้าที่ในการเป็นตัวกลางในการซื้อขายที่เรียกว่า “ตลาดหลักทรัพย์” มาทำหน้าที่รวบรวมทั้งหุ้นและผู้ซื้อ ผู้ขายให้ได้มาเจอกัน การลงทุนในหุ้นจึงได้รับความนิยมเป็นลำดับต้น ๆไม่แพ้สินทรัพย์อื่น และก็มีความเสี่ยงไม่น้อยไปกว่าสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆไม่ว่าคนผู้นั้นจะมีประสบการณ์มากหรือน้อยก็ล้วนแต่มีความเสี่ยงขาดทุนทุกคนครับ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คุณต้องขาดทุนจากการลงทุนในหุ้น วันนี้เรามีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์มาฝาก

9 แนวคิดการลงทุนในหุ้น ลงทุนอย่างไรห่างไกลความล้มเหลว

1. ก่อนจะลงทุนต้องศึกษาตลาดหุ้นให้เข้าใจ

            การลงทุนในตลาดหุ้นไม่ใช่การเสี่ยงโชค ผู้ที่เข้ามาในตลาดด้วยแนวคิดเช่นนี้ล้วนแล้วแต่ต้องขาดทุนไปนับไม่ถ้วนเพราะหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไม่น้อยครับ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเข้ามาลงทุนคุณจำเป็นต้องทำการศึกษาให้เข้าใจเสียก่อนถึงกลไกต่าง ๆของตลาด วิธีการซื้อขาย จังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะทำการซื้อขาย ยิ่งรู้มากเพียงใด คุณก็จะปิดโอกาสขาดทุนมากขึ้นตามไปด้วย

2. ศึกษาตลาดไม่พอ คุณต้องทำความเข้าใจว่าหุ้นที่คุณต้องการซื้อเขาทำธุรกิจอะไร

            เพราะหุ้นคือสิทธิ์ในการแสดงความเป็นเจ้าของร่วมของธุรกิจ ดังนั้นก่อนที่คุณจะทำการตัดสินใจเลือกว่าจะซื้อหุ้นตัวใด คุณจำเป็นต้องรู้ให้แน่ชัดว่าหุ้นตัวที่คุณกำลังจะซื้อนั้นประกอบธุรกิจอะไรอยู่ และธุรกิจนั้นมีสภาพคล่องหรือสุขภาพทางการเงินที่ดีมากน้อยเพียงใดและมีข้อมูลข่าวสารความน่าเชื่อถืออย่างไร คุณต้องทราบรายละเอียดเหล่านี้ของบริษัทที่คุณจะซื้อหุ้นเสียก่อนเพื่อประเมินความเสี่ยงในเบื้องต้นให้แก่ตัวคุณเอง

3. รู้ว่าตัวเองถนัดในการลงทุนในรูปแบบใด

            การลงทุนในหุ้นเราสามารถแบ่งสายการลงทุนได้เป็น 2 สายก็คือในแนว Trader และในแนว Value ซึ่งแนวทางทั้งสองนั้นมีแนวคิดในการลงทุนที่แตกต่างกันแทบจะสิ้นเชิง คุณต้องสำรวจดูให้รู้ตัวเองเสียก่อนว่าคุณถนัดการลงทุนในแนวไหน แล้ววางกลยุทธ์ในการลงทุนให้เป็นไปตามความถนัดของคุณครับ อย่าได้กลับตัวเองไปมาระหว่าง 2 แนวทางนี้โดยเด็ดขาด เพราะมีโอกาสที่จะทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาดจนนำไปสู่การขาดทุนได้

4. ถามตัวเองว่า “วัตถุประสงค์”ในการลงทุนของคุณคืออะไร

            ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในแนวทางของ Trader หรือ Value ก็ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยเวลา ความอดทนและความใส่ใจอยู่มากครับ หากคุณคิดว่าคุณจะเข้ามาเพื่อหวังความฉาบฉวย ความคิดเช่นนี้ก็อาจทำให้คุณต้องขาดทุนอย่างหนักก็เป็นได้ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเข้ามาลงทุนคุณต้องถามตัวเองให้ชัดเจนเสียก่อนว่า “คุณมีวัตถุประสงค์เช่นใดในการลงทุนในหุ้น”  รวมถึงความสามารถในการทนรับการขาดทุนว่ามีมากน้อยเพียงใด หากคุณเข้าใจวัตถุประสงค์ของคุณเอง คุณจะไม่ล้มเหลวในการลงทุนหุ้นครับ

5. เงินที่ต้องนำมาใช้ลงทุนควรจะต้องเป็นเงินเย็นที่คุณไม่จำเป็นต้องนำไปใช้ในระยะเวลาอันใกล้

            ข้อควรคำนึงที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการลงทุนในหุ้นก็คือเงินลงทุนที่คุณนำมาใช้ต้องเป็น “เงินเย็น”ที่คุณไม่ได้วาวแผนเอาไปใช้ประโยชน์ในระยะเวลาอันใกล้ เพราะการลงทุนในหุ้นให้ประสบความสำเร็จ “ระยะเวลา” เป็นสิ่งสำคัญมากและเป็นปัจจัยที่จะบอกถึงความสำเร็จได้เลยทีเดียว การนำเงินที่ไม่ใช่เงินเย็นมาลงทุนจะเพิ่มความเครียดและความวิตกกังวลว่าจะเสียเงินก้อนนี้ให้คุณมากกว่าเดิม และมีโอกาสที่จะทำให้คุณวางกลยุทธ์ในการลงทุนผิดพลาดจนนำไปสู่การสูญเสียเงินจริง ๆ

6. วางกลยุทธ์ในการลงทุนให้ดีและเหมาะสมกับตนเองให้มากที่สุด

            การลงทุนให้ประสบความสำเร็จการวางกลยุทธ์ในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณสามารถวางกลยุทธ์ในการลงทุนให้เหมาะสมกับตนเองได้มากที่สุด วางกลยุทธ์บนพื้นฐานของความเข้าใจในตลาดหุ้น และบนพื้นฐานของข้อมูลที่คุณได้ทำการศึกษามาอย่างดี การลงทุนนั้นก็มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวน้อยลงมากครับ ดังนั้นก่อนการลงทุนทุกครั้งคุณควรกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนแต่ละครั้งให้ดีเสียก่อน

7. กราฟเทคนิคและ Indicator ต่าง ๆคือสิ่งที่คุณควรจะเรียนรู้ไม่ว่าคุณจะเลือกแนวทางในการลงทุนแบบใด

            การใช้กราฟเทคนิครวมถึง Indicator ต่าง ๆไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนในสาย Trader เท่านั้นที่ต้องเรียนรู้ แม้กระทั่งนักลงทุนในแนว Value ก็มีความจำเป็นต้องเรียนรู้เช่นกันครับ เพราะกราฟเทคนิคและ indicator ต่าง ๆจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดช่วงราคาที่เหมาะสมในการทำการซื้อขายและจังหวะที่น่าสนใจในการซื้อขายได้ หากคุณต้องการจะประสบความสำเร็จในการลงทุนในหุ้นอย่าลืมที่จะเรียนรู้เรื่องเหล่านี้เอาไว้ด้วย

8. ตั้งสติในการลงทุนทุกครั้ง อย่าให้อำนาจของความโลภและความตระหนกมาบ่อนทำลายคุณ

            การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นหุ้น “เรื่องของอารมณ์” สามารถทำให้คุณตกที่นั่งลำบากและขาดทุนได้ครับ ทุกครั้งที่ได้กำไรหรือทุกครั้งที่ขาดทุน อย่าให้อารมณ์ความโลภและความตื่นตระหนกมามีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจใด ๆของคุณเด็ดขาด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด “สติและวินัยในการลงทุน” จะช่วยทำให้การลงทุนของคุณผ่านพ้นไปได้ในทุก ๆสภาวะของตลาด

9. มีวินัยในการลงทุนอย่างเคร่งครัด ไม่ควรซื้อหรือครอบครองหุ้นหลายตัว

            ท้ายที่สุดวินัยในการลงทุนคือสิ่งที่จะช่วยให้คุณอยู่รอดในการลงทุนหุ้นอย่างแท้จริง เพราะแม้ว่าคุณจะเรียนรู้ความรู้มากเพียงใด แต่หากไร้ซึ่งวินัยและการทำตามวินัยอย่างเคร่งครัด ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะประสบความสำเร็จในการลงทุนหุ้นครับ อนึ่งอีกสิ่งสำคัญก็คือ “อย่าซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตครั้งละหลาย ๆตัว” แต่ควรเลือกที่จะตามซื้อในหุ้นตัวที่คุณรู้จักและเข้าใจพื้นฐานของมันเป็นอย่างดี เพราะการที่คุณมีหุ้นอยู่ในพอร์ตมากเกินไป คุณไม่สามารถที่จะเฝ้าดูจังหวะและสัญญาณในการซื้อขายได้ทั้งหมด และมีโอกาสทำให้คุณขาดทุนจากการลงทุนได้สูงครับ

            ทั้งหมดนี้ก็คือ 9 แนวคิดในการลงทุนในหุ้นอย่างไรให้ได้กำไรและลดความเสี่ยงของการขาดทุน การลงทุนในหุ้นแม้ว่าจะสร้างผลกำไรให้แก่นักลงทุนอย่างงดงาม แต่การลงทุนนี้ก็สามารถที่จะทำให้นักลงทุนผู้ไม่มีประสบการณ์ขาดทุนจากการลงทุนมาแล้วนับไม่ถ้วนครับ หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่สนใจในการลงทุนในตลาดหุ้น ลองสนใจศึกษาตามแนวทางข้างต้น เพื่อให้คุณสามารถสร้างผลกำไรอย่างงดงามและลดความเสี่ยงในการขาดทุนลงให้มากที่สุดครับ

Spread the love

About the author

invest2morrow

เว็บไซต์ให้ความรู้สำหรับการ "ลงทุน" สำหรับมือใหม่ และข่าวสารการลงทุนทั่วโลก
ติดต่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ 0926565298