ประวัติ Jesse Livermore นักลงทุนระดับโลก 4 ความลับการลงทุนในตำนาน
หากชีวิตเปรียบดั่งนิยายสักเรื่อง สีสันของนิยายก็คือจังหวะชีวิตที่มีขึ้นและมีลง จากจุดต่ำสุดสู่จุดสูงสุดและสุดท้ายก็พลิกกลับลงจุดต่ำสุดอีกครั้งและคงจะดีไม่น้อยหากพล็อตเรื่องที่ว่านี้เป็นเพียงแค่ในนิยาย แต่ทว่าในความเป็นจริงสิ่งที่เกริ่นขึ้นมานั้นคือเรื่องราวบทสรุปชีวิตของนักลงทุนระดับโลกผู้เป็นตำนานอีกท่านหนึ่งที่มีชีวิตสุดพลิกผันจากจุดสูงสุดดำดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดโดยเขาคนนั้นก็คือ Jesse Livermore ผู้ซึ่งเราจะมาถอดบทเรียนกันในบทความนี้
ประวัติ Jesse Livermore จุดกำเนิดนักลงทุนผู้เป็นตำนาน
Jesse Livermore เกิดเมื่อปี 1877 ในครอบครัวที่ทำอาชีพเป็นชาวไร่ซึ่งมีฐานะยากจน ในวัยเด็กเขามีชีวิตที่ยากลำบากจนต้องตัดสินใจหนีออกจากบ้านเมื่ออายุ 14 ปีด้วยความคิดที่อยากจะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองและเขาก็ได้งานแรกจากการเป็นเด็กเคาะกระดานซื้อขายหุ้น
หลังจากทำความคุ้นเคยกับหุ้นอยู่สักพักหนึ่งในวัย 15 ปีเขาจึงตัดสินใจอยากลองเทรดหุ้นกับเขาดูบ้าง เขาเริ่มต้นชีวิตการเป็นเทรดเดอร์เพื่อเก็งกำไรในห้องค้าเถื่อนโดยในช่วงที่เขาเริ่มต้ยเป็ยเทรดเดอร์ในห้องค้าเถื่อนนั้นเขาแทบไม่มีความรู้ในเรื่องการเทรดเลยแม้แต่น้อย
รากฐานคือการเรียนรู้นำไปสู่การเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว
แม้เขาจะไม่ได้มีความรู้ในเรื่องของการเทรดเลยแต่สิ่งที่เขาตัดสินใจทำก็คือ การเริ่มต้นการเรียนรู้ โดยการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของหุ้น ทำการจดบันทึกสถิติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ศึกษารูปแบบของราคาและคำนวณความน่าจะเป็นที่มีโอกาสเกิดขึ้นเพื่อหาสัญญาณการซื้อขายโดยเขาทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาซึ่งการเรียนรู้ด้วยตนเองเช่นนี้ทำให้สุดท้ายเขาก็ตกตะกอนความคิดค้นพบหลักการและแนวทางการลงทุนของตนเอง
เมื่อเข้าสู่สนามเทรดเพียงปีแรกเขาก็สามารถทำกำไรได้ถึง 1,000 เหรียญ และเมื่อผ่านไป 5 ปีเขาก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 10,000 เหรียญจนสุดท้ายห้องค้าหุ้นเถื่อนก็แบนเขาอย่างเด็ดขาดเพราะขาดทุนจากการทำกำไรของ Jesse Livermore นั่นเอง
สู่สนามจริงที่ใหญ่ขึ้นกับผลตอบแทนที่ได้รับอย่างมหาศาล
เมื่อถูกแบนจากห้องค้าหุ้นเถื่อน Jesse Livermore จึงตัดสินใจที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดที่ใหญ่กว่าโดยในปี 1897 ขณะที่มีอายุ 20 ปี Jesse Livermore จึงเข้ามาเทรดที่ Wall Street เต็มตัวโดยในช่วงแรกเขาก็เป็นเหมือน ๆ นักลงทุนรายย่อยทั่วไปที่มีกำไรสลับกับการขาดทุนและถึงขั้นที่หมดตัวก็มี แม้สนามเทรดจะเปลี่ยนไปหากแต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่เคยเปลี่ยนก็คือเขายังคงทำการบ้านอย่างหนักโดยการศึกษาพฤติกรรมของตลาดและหุ้นเป็นรายตัวอย่างสม่ำเสมอ
ในปี 1907 คือปีที่สร้างผลตอบแทนกลับคืนสู่ตัวของ Jesse Livermore อย่างมหาศาลเมื่อเขาสังเกตและวิเคราะห์ว่าตลาดหุ้นในเวลานั้นโตขึ้นมาสูงเกินไปซึ่งไม่สมเหตุสมผลกับสภาวะของเศรษฐกิจในขณะนั้น ตัวเขามองขาดว่าตลาดกำลังจะพลิกกลับเป็นช่วงขาลงเขาจึงทำการ Short Sell และสิ่งที่เขาวิเคราะห์ไว้ก็เกิดขึ้นจริงเพราะตลาดหุ้นร่วงลงกว่า 50% ทำให้เขาได้รับผลตอบแทนถึง 3 ล้านเหรียญ
หมดตัวจากความผิดพลาดและความดื้อรั้น
ในปี 1908 Jesse Livermore ตัดสินใจเข้ามาเทรดในตลาดสินค้าเกษตร เขาวิเคราะห์เอาไว้ว่าราคาฝ้ายจะเป็นขาลงและราคาข้าวสาลีจะเป็นขาขึ้น แต่เมื่อเขาไปเจอนักวิเคราะห์ชื่อดังที่ให้ความเห็นสวนทางกับเขา เขาตัดสินใจที่จะเชื่อความเห็นของนักวิเคราะห์โดยทิ้งข้าวสาลีที่กำลังทำกำไรอยู่และหันไปเทรดฝ้ายที่ราคาตกต่ำ ผลสุดท้ายคือราคาฝ้ายร่วงไม่หยุดแต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และพยายามเข้าไปซื้อถัวเฉลี่ยราคาขาลงทั้ง ๆ ที่ตามปกติแล้วหากเขาเล่นผิดทางเขาจะทำการ cut loss แต่เนิ่น ๆ และผลสุดท้ายคือเขาต้องสูญเสียเงินไปเกือบทั้งหมด
กลับมาได้จากการคว้าโอกาสที่เข้ามา
ในปี 1918 เขาอาศัยชื่อเสียงเก่าของเขาทำให้เขาสามารถกู้เงินกลับมายังตลาดใหม่อีกครั้ง และเขาก็สามารถทำกำไรจากหุ้นเหล็กในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ ผลตอบแทนของเขามากพอที่จะสามารถปลดหนี้ทั้งหมดได้และทำให้เขามีเงิน 3 ล้านเหรียญอีกครั้ง
ในปี 1929 คือช่วงที่เขาขึ้นสู่จุดสูงสุดอันเป็นผลจากการทำกำไรมาอย่างต่อเนื่องหลายปีจากสภาวะตลาดขาขึ้น แต่ก็เป็นเขาเองที่คาดการณ์สภาวะล่วงหน้าออกว่าตลาดน่าจะเข้าสู่ขาลงและทำการ short sell อีกครั้ง ผลในครั้งนี้ก็คือเขาสามารถทำกำไรได้ถึง 100 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
เผชิญอาการป่วยจนหมดตัวอีกครั้ง
แม้เรื่องของการลงทุนเขาจะประสบความสำเร็จอย่างมากแต่ในแง่ครอบครัวเขาเผชิญปัญหาอย่างหนัก ความเครียดเหล่านี้ถาโถมเข้ามาจนทำให้เขาเริ่มมีปัญหาสุขภาพทั้งโรคสมองเสื่อมและปัญหาด้านความทรงจำและแล้วในปี 1934 ผลจากปัญหาสุขภาพและสภาพจิตใจทำให้การวิเคราะห์ของเขาไม่เฉียบขาดเหมือนเดิมและทำให้เขาตัดสินใจผิดพลาดจนนำไปสู่การสูญเสียเงินไปทั้งหมด สุดท้ายในปี 1940 เขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองโดยข้อความสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้เขาบอกกับภรรยาว่าตัวของเขาก็คือความล้มเหลว
บทเรียนแนวคิดการลงทุนของ Jesse Livermore
1.จงศึกษาสิ่งที่ทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
Jesse Livermore เป็นตัวอย่างที่ดีของการศึกษาสิ่งที่ตัวเองสนใจให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้ในเรื่องของการเทรดเลยก็ตาม แต่เขาก็ไม่ย่อท้อและศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองจนทำให้เขามีความเข้าใจมากขึ้นและส่งผลให้เขาประสบความสำเร็จในการเทรดและการลงทุนในที่สุด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการและผู้ประกอบการควรนำไปประยุกต์ใช้เพราะเมื่อใดที่เราเข้าใจในสิ่งที่เราทำอย่างถ่องแท้ โอกาสที่เราจะประสบความสำเร็จจากธุรกิจที่เราทำอยู่ก็เป็นไปได้สูง
2.กลับตัวเองจากความดื้อดึงของตนเองและเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่อีกครั้งเมื่อได้รับโอกาส
ใช่ว่า Jesse Livermore จะประสบความสำเร็จในการลงทุนทุกครั้งเพราะผลจากความดื้อดึงก็ทำให้เขา ต้องขาดทุนจากการลงทุนจนถึงขั้นหมดตัว แต่เมื่อเขา ได้รับโอกาสเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งผิดพลาดในอดีต เขาก็สามารถคว้ามันเอาไว้ได้และเปลี่ยนแปลงตัวเองจนนำมาสู่ความสำเร็จอีกครั้ง บทเรียนนี้สอนให้นักลงทุน รวมถึงผู้ประกอบการทั้งหลายให้ตระหนักถึงความดื้อดึงว่าเมื่อใดที่เหตุการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่คิด จงอย่าดื้อดึงและรีบทำการแก้ไขก่อนที่จะสายจนเกินไป หรือเมื่อใดที่ตนเองได้รับโอกาสที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดอีกครั้งก็จงคว้าโอกาสนั้นเอาไว้ให้ได้นี่คือสิ่งที่ Jesse Livermore ได้ให้บทเรียนล้ำค่าเอาไว้
3.วินัยในการลงทุนมีความสำคัญมากกว่าความพยายามทำกำไร
นักลงทุนหน้าใหม่มักจะให้ความสำคัญกับโอกาสในการทำกำไรมากกว่าความพยายามในการรักษาวินัยในการลงทุน ทั้งที่วินัยในการลงทุนจะเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้ รวมถึงสามารถป้องกันการขาดทุนจนถึงขั้นหมดตัว ของนักลงทุนหน้าใหม่ ดังนั้นสิ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่ควรจะตระหนักถึงและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ก็คือการสร้างวินัยในการลงทุน เพราะเมื่อใดที่คุณมีวินัยในการลงทุนคุณจะสามารถต่อยอดนำไปสู่ การสร้างกำไรได้ในที่สุด
4.สภาพจิตใจมีผลสำคัญต่อการลงทุน
ไม่ว่าคุณจะมีแนวทางการลงทุนที่ชัดเจนเพียงใด หากแต่สภาพจิตใจของคุณไม่พร้อม คุณก็มีโอกาสประสบความล้มเหลวในการลงทุนได้ เฉกเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Jesse Livermore ที่ในช่วงท้ายของชีวิตการลงทุน เมื่อเขามีปัญหาสุขภาพจนส่งผลถึงสภาพจิตใจ ก็ทำให้ความเฉียบคมที่เคยมีหายไปและนำพาเขาไปสู่ ความล้มเหลวจนถึงขั้นต้องจบชีวิตตัวเองลงในที่สุด นักลงทุนหน้าใหม่จึงควรฝึกฝนและเตรียมความพร้อมในเรื่องของสภาพจิตใจก่อนที่จะตัดสินใจเข้าสู่การลงทุนเพื่อป้องกันไม่ให้ความผิดพลาดที่จะสร้างหายนะเกิดขึ้นกับตัวของคุณเอง
แม้ว่าในช่วงสุดท้าย Jesse Livermore จากประสบความล้มเหลว หากแต่ชีวิตของเขาก็คือบทเรียนล้ำค่าให้นักลงทุนรวมถึงเจ้าของกิจการตระหนักถึงเส้นทางที่นำไปสู่ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือเรื่องของสภาพจิตใจและวินัยในการลงทุนต่างซึ่งเป็นข้อเตือนใจที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนและเจ้าของกิจการควรตระหนักถึงและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ
สนใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
เปิดบัญชีเทรด bitkub ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3fLjDtU
เปิดบัญชีเทรด Satangpro ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3i2Kgf2
เปิดบัญชีเทรด Bitaza ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3vEpNSK
เปิดบัญชีเทรด Binance ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3pIPkb0
ติดตามความรู้ ข่าวสารการลงทุน / ติดต่อโฆษณาประชาสัมพันธ์
