นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายรายมีจุดเริ่มต้นมาจาก “ศูนย์” และด้วยความลำบากในวัยเยาว์จึงทำให้พวกเขาต่างต้องการที่จะผลักดันตัวเองจนก้าวสู่ความสำเร็จ เรื่องราวเช่นนี้จึงมีส่วนช่วยสร้างให้ประวัติชีวิตของพวกเขาน่าสนใจและกลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับใครหลาย ๆ คนให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองและก้าวไปสู่ความสำเร็จในด้านต่าง ๆ เฉกเช่นเดียวกับเจ้าของเรื่องราวเหล่านั้น และเช่นเดียวกับบทความในครั้งนี้ที่เราจะนำเรื่องราวของนักธุรกิจอันดับ 1 ของเวียดนามผู้มีอดีตที่ยากลำบากซึ่งเขาได้ฝ่าฟันสร้างตัวเองจนกลายเป็นความสำเร็จในวันนี้กับ Pham Nhat Vuong เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ Vingroup
Pham Nhat Vuong ผู้ก่อตั้ง Vingroup จากความลำบากในวัยเยาว์กลายเป็นแรงผลักดันไปสู่ความสำเร็จ
Pham Nhat Vuong เกิดในปี 1968 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในช่วงปีที่เขาเกิดเป็นช่วงที่เวียดนามอยู่ในภาวะสงครามเวียดนาม โดยพ่อของเขาเป็นทหารอากาศในกองทัพส่วนแม่ของเขาเป็นแม่ค้าในร้านน้ำชา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฐานะทางบ้านของเขาเข้าขัดขัดสนและลำบากไม่น้อยทีเดียว
Pham Nhat Vuong จบการศึกษาในระดับมัธยมและเข้าศึกษาต่อที่ Hanoi University of Mining and Geology ด้วยความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ที่โดดเด่นทำให้เข้าสามารถสอบชิงทุนไปศึกษาต่อที่คณะเศรษฐศาสตร์ สถาบันสำรวจธรณีวิทยาแห่งมอสโก ซึ่งตอนนั้นยังคงเป็นสหภาพโซเวียตอยู่ เมื่อเขาเรียนจบในจังหวะนั้นเป็นช่วงที่สหภาพโซเวียตล่มสลายพอดีเขาและครอบครัวจึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ยูเครนโดยเริ่มต้นจากการเปิดร้านอาหารเวียดนามร้านเล็ก ๆ ด้วยเงินทุนที่ได้จากการหยิบยืมจากเพื่อน ๆ และครอบครัว
เริ่มต้นธุรกิจแรกด้วยการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ในช่วงที่เขาเปิดร้านอาหารอยู่ในยูเครนนั้นเอง ยูเครนกำลังได้รับผลกระทบจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนค่อนข้างลำบาก เขาจึงมีความคิดที่จะผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาวางจำหน่ายเพราะเป็นอาหารที่มีราคาค่อนข้างถูกเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจของยูเครนในขณะนั้นที่ประชาชนมีฐานะยากจน Pham Nhat Vuong จึงเริ่มตั้งโรงงานผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยใช้ชื่อว่า LLC Technocom โดยนำเข้ากระบวนการผลิตทั้งหมดมาจากเวียดนามบ้านเกิดของเขา ซึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายใต้การผลิตของเขาก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปแห้งขนาดใหญ่ของยูเครนที่ส่งออกสินค้าไปวางจำหน่ายทั่วยุโรปอีกด้วย นอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบริษัทของเขายังผลิตอาหารแปรรูปแห้งอีกว่า 100 ชนิด
ในปี 2009 เขาตัดสินใจขายบริษัทให้กับ Nestle ที่มาขอซื้อกิจการด้วยมูลค่าสูงถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
สู่จุดเริ่มต้นอาณาจักรธุรกิจ Vingroup
จริง ๆ แล้วในช่วงที่เขาเริ่มต้นธุรกิจจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยูเครนในปี 1993 เขาตัดสินใจย้ายครอบครัวกลับมาอยู่ที่เวียดนามพร้อม ๆ กับการบริหารธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ที่ยูเครนไปด้วย เมื่อเขากลับสู่เวียดนามเขาจึงเริ่มต้นก่อตั้งอาณาจักรธุรกิจ Vingroup ทันทีเพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยในปัจจุบันกลุ่มธุรกิจของเขานั้นครอบคลุมธุรกิจต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจห้างสรรพสินค้า ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจโรงเรียน โรงพยาบาล สวนสนุก รวมถึงรถยนต์ ซึ่งเรียกได้ว่าครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจในเวียดนามทั้งหมดจึงทำให้เขาขึ้นแทนกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเวียดนามในปัจจุบัน
บทเรียนแนวความคิดของ Pham Nhat Vuong
1. ใช้ความขัดสนเป็นแรงผลักดัน
ความขัดสนยากจนในวัยเด็กไม่ใช่ข้ออ้างที่จะฉุดรั้งไม่ให้เราประสบความสำเร็จ ข้อนี้คือสิ่งที่ Pham Nhat Vuong พิสูจน์มาแล้วเมื่อเขาใช้ความลำบากในวัยเยาว์เป็นตัวผลักดันให้เขาเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เขาพยายามผลักดันจนตัวเองสามารถสอบชิงทุนไปเรียนต่อยังต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสามารถก่อร่างสร้างตัวได้เป็นผลสำเร็จ
2. อ่านเกมขาดมองเห็นโอกาสที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตนเอง
ความสามารถในการอ่านสถานการณ์ก็เป็นสิ่งที่ Pham Nhat Vuong สมควรได้รับการยกย่อง โดยความสามารถนี้เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อเขายังอยู่ในยูเครน เมื่อเขาพิจารณาแล้วว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคือธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตในสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้นและสุดท้ายก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเขา เช่นเดียวกับที่เมื่อเขากลับมาที่ประเทศเวียดนาม เขามองขาดว่าในขณะนั้นเวียดนามต้องการการพัฒนาในเรื่องของสาธารณูปโภคด้านต่าง ๆ ซึ่งสุดท้ายสิ่งที่เขาคิดและทำก็สามารถนำเขาขึ้นสู่อันดับ 1 ของเวียดนามได้ในที่สุด
3. ต่อยอดธุรกิจของตนเองจนเติบโต
จากจุดเริ่มต้นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในปัจจุบันนี้เขาได้ขยายต่อยอดธุรกิจของเขาไปสู่กลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่ครอบคลุมแทบจะทุกธุรกิจในเวียดนาม ข้อนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเองไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาและต่อยอดธุรกิจของตัวเองเลย ซึ่งความสามารถในการต่อยอดธุรกิจนี้มีมาตั้งแต่ในสมัยที่เขาเริ่มต้นธุรกิจที่ยูเครน เขาเองก็ต่อยอดจากเพียงแค่การผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปสู่อาหารแห้งรูปแบบต่าง ๆ กว่า 100 ชนิดและสร้างยอดขายจนทำให้ Nestle เข้ามาขอซื้อกิจการในที่สุด
4. ความมีวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยมคือต้นแบบที่น่าเอาอย่าง
วิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของ Pham Nhat Vuong คืออีกหนึ่งสิ่งที่น่ายกย่องของเขา เพราะในขณะที่อาณาจักรธุรกิจของเขาเติบโตนั้น การขยายธุรกิจของเขาในทุกครั้งกลับสามารถทำให้เกิดการจ้างงานและการพัฒนาต่อระบบเศรษฐกิจของเวียดนามได้เป็นอย่างดีก่อให้เดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้าสู่เวียดนามมากขึ้น วิสัยทัศน์ของเขาจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการควรเรียนรู้และนำไปประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองให้มากที่สุด
Pham Nhat Vuong คืออีกหนึ่งตัวอย่างของนักธุรกิจที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาและเป็นผู้ที่มอบบทเรียนที่ว่าแม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ แม้ว่าเขาจะมีชีวิตในวัยเด็กที่ยากแค้นเพียงใดเขาก็พร้อมที่จะผลักดันตนเองให้หลุดพ้นจากวงจรเช่นนั้น นอกจากนี้เขาเองยังเป็นคนหนึ่งที่มีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมและมีความสามารถในการมองเกมและอ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ขาด ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและนำมาซึ่งความสำเร็จอของเขาในทุกวันนี้
สนใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
เปิดบัญชีเทรด bitkub ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3fLjDtU
เปิดบัญชีเทรด Satangpro ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3i2Kgf2
เปิดบัญชีเทรด Bitaza ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3vEpNSK
เปิดบัญชีเทรด Binance ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3pIPkb0
ติดตามความรู้ ข่าวสารการลงทุน / ติดต่อโฆษณาประชาสัมพันธ์
