แม้จะมีวลีที่ว่า “จงกล้าในขณะที่คนอื่นกลัว และจงกลัวในขณะที่คนอื่นกล้า” แต่กระนั้นในโลกแห่งการลงทุนจะมีสักกี่คนที่สามารถทำได้ดังวลีข้างต้น? คนกว่า 90% ในสนามการลงทุนทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับวลีดังกล่าวและสุดท้ายเงินของพวกเขาก็ถูกโอนย้ายให้คนเพียงแค่ 10% เท่านั้น นี่ก็คือความเป็นจริงของสนามการลงทุนที่ว่านี้ เพื่อเป็นการยืนยันวลีทองดังกล่าว บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับประวัติของสุดยอดนักลงทุนผู้ซึ่งทำกำไรอย่างมหาศาลจากความกล้าในช่วงเวลาที่คนอื่นหวาดกลัวอย่าง จอห์น เทมเพิลตัน หนึ่งในสุดยอดกูรูนักลงทุนระดับโลก
ประวัติ John Marks Templeton จากวัยเด็กที่ประสบปัญหาสู่การเป็นสุดยอดนักลงทุนระดับโลก
จอห์น เทมเพิลตันเกิดในปี 1912 ในรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ได้ราบรื่นนักด้วยผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ในช่วงที่เขาอายุเพียง 2 ปีทำให้ครอบครัวของเขาต้องประสบกับปัญหาการเงินอย่างหนักดังนั้นเมื่อเขาโตขึ้นเขาจึงต้องหาช่องทางส่งเสียตัวเองในด้านการเรียนด้วยการทำในสิ่งที่เขาถนัดก็คือการเล่นไพ่โป๊กเกอร์
เทมเพิลตันเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่ Yale University และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโททางด้านกฎหมายที่ Oxford University
เขาสนใจในเรื่องของการลงทุนมาโดยตลอดโดยเฉพาะปรัชญาการลงทุนของเบนจามิน เกรแฮมสุดยอดนักลงทุนคุณค่า โดยปรัชญาการลงทุนของเกรแฮมคือรากฐานการลงทุนสำคัญที่เทมเพิลตันยึดถือและประยุกต์ใช้กับการลงทุนของเขามาโดยตลอด หลังจบการศึกษาได้ 3 ปีเทมเพิลตันจึงเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น NYSE
กล้าในช่วงที่คนอื่นกลัว
ตามปรัชญาการลงทุนของเบนจามิน เกรแฮมที่เทมเพิลตันยึดถือนั้นจะให้ค่ากับหุ้นของบริษัทที่มีศักยภาพ มีพื้นฐานที่ดีและเข้าซื้อหุ้นนั้นในช่วงที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท จากแนวทางการลงทุนนี้เองที่ในช่วงปี 1930 เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐตกต่ำอย่างหนักจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ดัชนีตกลงไปกว่า 90 % ในช่วงเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น ในขณะที่ผู้คนในตลาดกำลังอยู่ในสภาวะตื่นกลัว เทมเพิลตันกลับทำในสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่กลัวก็คือกล้าที่จะเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่ผู้คนไม่สนใจ
วิธีการของเทมเพิลตันก็คือการเข้าซื้อหุ้นทุกตัวในตลาดที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐในจำนวน 100 หุ้นต่อบริษัท ด้วยวิธีการนี้เขาสามารถซื้อหุ้นได้ถึง 104 บริษัทโดยในจำนวนนี้มีถึง 34 บริษัทที่กำลังจะล้มละลาย ผลจากการลงทุนในช่วงวิกฤตนี้เองที่ทำให้เมื่อผ่านไป 4 ปีเขาสร้างผลตอบแทนได้ถึง 360%จากกำไรในการขายหุ้นอย่างมหาศาล 100 บริษัทและมีเพียงแค่ 4 บริษัทเท่านั้นที่ล้มละลายไปจริง ๆ
หลายคนอาจมองว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นของเขาเป็นผลมาจากดวงของเขาที่บริษัทต่าง ๆ ที่เขาเข้าซื้อหุ้นกลับมามีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่หากมองลงไปในรายละเอียดจะพบว่าในช่วงที่เขาเข้าซื้อนั้นเป็นช่วงที่ใคร ๆ ก็กลัวและเข็ดขยาดกับการลงทุนในตลาดหุ้นในขณะที่เขาอาศัยความกล้าที่จะสวนทางกับตลาดจนทำให้เขาได้รับผลตอบแทนอย่างมหาศาลในครั้งนี้
ในช่วงวิกฤตคือโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับเทมเพิลตัน
ในช่วงวิกฤตที่คนอื่นกำลังตื่นกลัวนั้นดูจะเป็นสิ่งที่เทมเพิลตันโปรดปรานและมองหาโอกาสที่ว่านั้นอย่างใจเย็นเพราะในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 อุบัติขึ้นนั้นเพียงแค่วันแรกที่มีข่าวว่าสงครามเกิดขึ้นจริง ๆ สิ่งที่เทมเพิลตันทำก็คือการกว้านซื้อหุ้นทุกตัวในตลาดที่มีมูลค่าตกลงจนเหลือต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง และก็เป็นอีกหนึ่งครั้งสำคัญที่การตัดสินใจลงทุนในปรัชญาที่เขายึดถือนำความมั่งคั่งอย่างมหาศาลมาให้เขาเพราะทันทีที่สงครามจบลง ความมั่งคั่งที่เขาได้รับก็ส่งผลให้เขากลายเป็นนักลงทุนในระดับโลกทันที
สานต่อความสำเร็จ
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนระดับโลกแล้วแต่เทมเพิลตันก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองต่อไปโดยในช่วงที่เขามีอายุได้ 42 ปีเทมเพิลตันได้จัดตั้งกองทุนรวม Templeton Growth Fund เพื่อลงทุนในตลาดต่างประเทศจากการที่เขาเล็งเห็นถึงโอกาสใหม่ ๆ จากตลาดต่างประเทศและต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนของตัวเขาเอง โดยกองทุนรวมของเขาเป็นกองทุนแรกของสหรัฐที่เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองข้ามจากผลกระทบที่ผ่านมาในช่วงสงครามโลก แต่เทมเพิลตันเองกลับพัฒนากองทุนนี้และเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ เคมีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำให้ในปี 1959 กองทุนของเขามีมูลค่าถึง 66 ล้านดอลลาร์
นักบริจาคเพื่อการกุศลตัวยง
ตามกฎหมายสหรัฐเมื่อเขาทำการขายกองทุนของต่างประเทศเขาจะต้องทำการจ่ายภาษีกว่า 3,200 ล้านบาท เขาจึงตัดสินใจที่จะสละสัญชาติอเมริกาเพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษีนั้นและนำเงินดังกล่าวไปบริจาคให้แก่การกุศลแทน โดยเขาบริจาคเงินไปทั้งสิ้นกว่า 10,000 ล้านบาท ต่อมาในภายหลังเขาได้รับสัญชาติอังกฤษและได้รับพระราชทานยศ “เซอร์” จากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 100 ผู้ที่มีอิทธิพลที่สุดในโลก
บทเรียนแนวคิดการลงทุนของจอห์น เทมเพิลตัน
1.มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น
มีคำกล่าวเอาไว้ว่าความสามารถในการมองเห็นโอกาสในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นคือเส้นคั่นบาง ๆ ที่แบ่งแยกการเป็นนักลงทุนทั่วไปกับนักลงทุนในระดับโลกให้ออกจากกัน ในขณะที่คนอื่นกำลังมองสถานการณ์ด้วยความสิ้นหวังแต่สำหรับเทมเพิลตันนั้น เขามองทะลุเห็นโอกาสที่ถูกบดบังด้วยม่านหมอกแห่งความสิ้นหวังและสุดท้ายก็พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่เขามองเห็นนั้นถูกต้อง
2.กล้าในสิ่งที่คนอื่นกำลังกลัว
นักลงทุนในระดับโลกหลายรายมักจะมีมุมมองเช่นนี้ที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในตลาดและเมื่อใดที่เขาทำในสิ่งที่สวนทางกับคนส่วนมากจนประสบความสำเร็จก็มักจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความบังเอิญ ทั้ง ๆ ที่ในสถานการณ์ขณะนั้นแสดงถึงความกล้าหาญอย่างมากที่จะทำในสิ่งที่สวนทางกับคนส่วนใหญ่ของตลาด ความกล้าในขณะที่คนอื่นกำลังตื่นกลัวโดยอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ข้อมูลมาอย่างดีจึงเป็นคุณสมบัติหลักที่ทำให้นักลงทุนทั่วไปสามารถก้าวข้ามมาอยู่ในฝั่งของนักลงทุนระดับโลกได้
3.ยึดมั่นในปรัชญาการลงทุนอย่างเคร่งครัด
เทมเพิลตันเป็นคนหนึ่งที่นึดมั่นในปรัชญาการลงทุนอย่างเคร่งครัด เขาปฏิเสธแนวทางการลงทุนโดยใช้กราฟเทคนิคอย่างสิ้นเชิงและใช้การวิเคราะห์พื้นฐานของหุ้นแทน นอกจากนี้เขาก็ไม่ได้สักแต่จะซื้อหุ้นโดยมองจากราคาที่ถูกมากเพียงอย่างเดียวแต่ยังมองพื้นฐานต่าง ๆ ของบริษัทไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการทำกำไร การบริหารจัดการรวมถึงศักยภาพในระยะยาวก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นตัวนั้น ๆ
4.ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
แม้ว่าความสามารถของเขาจะถูกสะท้อนผ่านผลงานในด้านการลงทุน แต่กระนั้นก็ไม่มีวันไหนที่เขาหยุดพัฒนาตัวเองในด้านการลงทุนเลย นับตั้งแต่เมื่อเขาตัดสินใจจะเข้าสู่โลกการลงทุนเขาก็เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของเบนจามิน เกรแฮม จวบจนเมื่อเขาเข้าสู่การลงทุนเต็มตัวเขาก็ยังหมั่นศึกษาและลับฝีมือของตนเองอยู่เรื่อย ๆจนผลการลงทุนเป็นที่ประจักษ์ผ่านการบริหารกองทุนรวมจนประสบความสำเร็จในที่สุด
ประวัติ John Marks Templeton เป็นหนึ่งในนักลงทุนระดับโลกที่สไตล์การลงทุนอาจไม่โลดโผนหวือหวาแต่ทว่าในแต่ละย่างก้าวของเขากับสะท้อนถึงความสามารถในการวิเคราะห์และมองสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเฉียบขาด บทเรียนสำคัญที่เขามอบให้วงการนักลงทุนก็คงจะไม่พ้นคำกล่าวที่วลี จงกล้าในขณะที่คนอื่นกลัวและจงกลัวในขณะที่คนอื่นกล้า ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด สิ่งนี่คือสิ่งที่นักลงทุนระดับโลกฝากเอาไว้ให้นักลงทุนรุ่นหลังนำไปประยุกต์และปฏิบัติตามนั่นเอง
สนใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
เปิดบัญชีเทรด bitkub ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3fLjDtU
เปิดบัญชีเทรด Satangpro ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3i2Kgf2
เปิดบัญชีเทรด Bitaza ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3vEpNSK
เปิดบัญชีเทรด Binance ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3pIPkb0
ติดตามความรู้ ข่าวสารการลงทุน / ติดต่อโฆษณาประชาสัมพันธ์