เสี่ยยักษ์ วิชัย วชิรพงศ์ จาก เงินเดือน 2,700 บาท สู่พอร์ตพันล้าน
ชื่อของเสี่ยยักษ์หรือคุณวิชัย วชิรพงศ์เป็นอีกหนึ่งชื่อที่นักลงทุนในตลาดหุ้นคุ้นหูกันเป็นอย่างดีถึงความสามารถในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่เติบโตในระดับพันล้าน ความสำเร็จของเสี่ยยักษ์ที่เกิดขึ้นมีเรื่องราวและแนวคิดในการลงทุนที่น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุนที่ต้องการประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันและเป็นสิ่งที่เราจะมาทำการถอดบทเรียนกันในครั้งนี้
ประวัติ เสี่ยยักษ์ วิชัย วชิรพงศ์ จุดเริ่มต้นของเซียนหุ้นพันล้าน
เสี่ยยักษ์หรือคุณวิชัย วชิรพงศ์ไม่ได้มีชีวิตที่สวยหรูมาตั้งแต่แรก หลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยเสี่ยยักษ์ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานบริษัทกินเงินเดือน 2,700 บาทในสมัยนั้น ในขณะที่เริ่มต้นทำงานในช่วง 20 วันแรกนั้นเสี่ยยักษ์เริ่มรู้สึกว่าเส้นทางนี้มาใช่เส้นทางของตัวเองเลยจึงตัดสินใจลาออกโดยไม่รับเงินเดือน
หลังจากลาออกเสี่ยยักษ์ได้กลับมาช่วยธุรกิจของครอบครัวที่ทำโรงงานบะหมี่ และในเวลา 10 ปีเสี่ยยักษ์ก็มีโอกาสได้สัมผัสเงินล้านเป็นครั้งแรก
เงินล้านที่ 2 เสี่ยยักษ์ได้มาจากการแต่งงานเป็นสินสมรส ซึ่งหลังจากแต่งงานแล้วเสี่ยยักษ์ได้ตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพและเป็นช่วงเวลาของการเริ่มต้นเส้นทางนักลงทุน
ความชอบในสิ่งท้าทายคือเหตุผลสำคัญของการลงมาอยู่ในสนามลงทุน
ก่อนที่เสี่ยยักษ์จะหันเหชีวิตเข้าสู่เส้นทางนักลงทุน เสี่ยยักษ์ได้ทดลองทำอาชีพต่าง ๆ มาแล้วทั้งการเลี้ยงกุ้งหรือแม้กระทั่งเป็นผู้รับเหมา แต่เหตุผลที่ตัดสินใจเข้าสู่แวดวงการลงทุนเพราะอุปนิสัยที่ชอบความท้าทาย ชอบงานยาก ๆ ที่มีโอกาสได้แก้ปัญหา โดยเสี่ยยักษ์ไม่เคยมองว่าปัญหาคือปัญหาแต่อย่างใด หากแต่เป็นบททดสอบที่เมื่อก้าวข้าวไปได้ก็จะเข้าใกล้ความสำเร็จเข้าไปทีละขั้น นี่คือแนวคิดหลักที่ทำให้เสี่ยยักษ์ตัดสินใจเข้าสู่แวดวงการลงทุนอย่างเต็มตัว
แม้การลงทุนในช่วงแรกจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะก็ประสบปัญหาขาดทุนเช่นเดียวกับมือใหม่ที่เข้ามา แต่เสี่ยยักษ์ไม่ยอมแพ้และกลับมาตั้งหลักใหม่อีกครั้ง
แม้ไม่มีพื้นฐานการลงทุนมาก่อนก็พยายามศึกษาจนได้แนวคิดการลงทุนเป็นของตนเอง
ก่อนที่จะเข้าสู่วงการลงทุน เสี่ยยักษ์ไม่มีพื้นฐานใด ๆ เกี่ยวกับการลงทุนเลย สิ่งที่จุดประกายให้เสี่ยยักษ์สนใจการลงทุนคือคอลัมน์เล็ก ๆ ในหนังสือพิมพ์ที่รายงานเกี่วกับหุ้นทำให้เสี่ยยักษ์รู้จักกับวงการการลงทุน และด้วยความที่ชอบงานที่ท้าทายและอยากทำงานสบายเสี่ยยักษ์จึงเริ่มต้นด้วยการไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาอ่านศึกษาทำความเข้าใจ ซึ่งหลังจากศึกษาได้ 3 ปีเสี่ยยักษ์จึงก้าวสู่เส้นทางการลงทุนเป็นครั้งแรก
หลักการแรกที่เสี่ยยักษ์ใช้คือการลงทุนในช่วงวิกฤตซึ่งให้บังเอิญตรงกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Black Monday ในปี 2530 พอดี เงินก้อนแรกกว่า 2.5 ล้านบาทจึงถูกนำมาลงทุน แต่เพราะมีแต่ความรู้แต่ยังไม่มีประสบการณ์ทำให้การลงทุนในครั้งนั้นขาดทุนกว่า 5 แสนบาทเลยทีเดียว
แม้จะเป็นการขาดทุนครั้งแรกแต่ก็เป็นการขาดทุนก้อนใหญ่ซึ่งทำให้เสี่ยยักษ์เกือบจะยอมแพ้ แต่ด้วยใจที่ไม่คิดยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ทำให้เสี่ยยักษ์หันกลับมาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้งและเริ่มต้นทำงานให้หนักมากขึ้นกว่าเดิมในการลงทุนจนทำให้สุดท้ายเสี่ยยักษ์ก็พัฒนาพอร์ตการลงทุนของตนเองสู่ระดับพันล้านได้สำเร็จ
ปัจจัยความสำเร็จอยู่ที่การตั้งเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา
ปัจจัยหลักที่ทำให้เสี่ยยักษ์ประสบความสำเร็จอยู่ที่การเป็นคนที่ตั้งเป้าหมายของตนเองอยู่เสมอ เพราะเสี่ยยักษ์เป็นคนที่เวลาจะทำอะไรแล้วก็มักจะตั้งเป้าหมายและจะต้องทำให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
อีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจและอาจเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งก็คือเงินล้านแรกหายาก แต่เมื่อใดที่เรารู้วิธีการหาเงินล้านแรกได้แล้ว เงินล้านต่อ ๆ ไปก็จะไม่ยากเลยหากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนและทำตามเป้าหมายที่วางไว้ การจะหาเงินล้านต่อ ๆ ไปก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
บทเรียนแนวคิดการลงทุนของวิชัย วชิรพงศ์
1.เรื่องยากคือของโปรดและความท้าทายที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้
หากจะบอกว่าความชื่นชอบในความท้าทายคือจุดเด่นและคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้เสี่ยยักษ์มีวันนี้ได้ก็คงจะไม่ผิดหนัก เพราะเสี่ยยักษ์มองปัญหาไม่ใช่ปัญหาแต่เป็นความท้าทายที่จะต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เมื่อมีมุมมองและทัศนคติเป็นเช่นนี้ เขาจึงเป็นคนที่ไม่เคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาเลย คุณสมบัตินี้คือสิ่งสำคัญสำหรับทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนที่ต้องการประสบความสำเร็จให้กล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา เพราะหากยังกลัวปัญหาอยู่จนทำให้ไม่ยอมทำอะไรเลยสุดท้ายก็ไม่มีทางจะประสบความสำเร็จได้
2.มีแนวทางในการลงทุนที่ชัดเจนจนนำไปสู่ความสำเร็จ
เสี่ยยักษ์เป็นคนหนึ่งที่มีแนวทางในการลงทุนที่ชัดเจน และเมื่อได้แสวคิดการลงทุนที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตนเอง เขาก็ยึดถือและปฏิบัติตามแนวทางการลงทุนของตนเองอย่างเคร่งครัด สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่อยากจะประสบความสำเร็จ เพราะการมีแนวทางการลงทุนที่ชัดเจนจะทำให้คุณมีแบบแผนในการลงทุน ไม่สับสนและทำให้การลงทุนนั้นมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าผู้ที่ไม่มีแนวทางการลงทุนที่ชัดเจนและเหมาะสม
3.ไม่ย่อท้อแม้จะเคยล้มเหลวมาก่อน
กว่าจะมาถึงจุดนี้ใช่ว่าเสี่ยยักษ์จะไม่เคยล้มเหลว เพราะการลงทุนในครั้งแรกของเขาก็ทำให้สูญเงินก้อนไปมากกว่า 20% ทั้ง ๆ ที่วางแผนการลงทุนมาเป็นอย่างดี และทำให้เสี่ยยักษ์เกือบจะถอดใจแล้ว แต่เพราะความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ต่อความล้มเหลวทำให้เสี่ยยักษ์ไม่ยอมถอดใจและกลับไปตั้งหลักใหม่ด้วยการศึกษาให้มากขึ้น ทำงานให้หนักขึ้นจนทำให้สุดท้ายเสี่ยยักษ์ก็กลับมาประสบความสำเร็จในเส้นทางการลงทุนในที่สุด
4.ตั้งเป้าหมายอยู่ตลอดเวลาเพื่อเป็นแรงขับดันให้ตนเอง
หากจะบอกว่าพิมพ์เขียวใดที่ทำให้เสี่ยยักษ์ประสบความสำเร็จก็คงต้องบอกว่าพิมพ์เขียวแห่งความสำเร็จนั้นมีชื่อว่า “การตั้งเป้าหมาย” เพราะเป้าหมายนอกจากจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เราทำตามแผนการที่วางไว้ เป้าหมายยังเป็นเข็มทิศที่นำทางให้เราเดินทางไปในเส้นทางที่ถูกต้อง สำหรับเสี่ยยักษ์เป้าหมายก็คือแรงขับดันให้ตัวของเขาก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จในปัจจุบัน การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหรือเจ้าของกิจการควรประยุกต์ใช้กับการทำงานของตนเอง
เรื่องราวและแนวคิดของเสี่ยยักษ์เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการให้หันมาศึกษาและนำไปปรับใช้กับการทำงานของตนเอง แค่เหนือสิ่งอื่นใดคือแนวคิดที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อความล้มเหลวและมองปัญหาที่เกิดขึ้นคือความท้าทายที่ต้องก้าวไปให้ได้ สิ่งนี้เองคือแนวคิดล้ำค่าที่มาพร้อมกับรางวัลคือความสำเร็จในท้ายที่สุด
สนใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล
เปิดบัญชีเทรด bitkub ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3fLjDtU
เปิดบัญชีเทรด Satangpro ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3i2Kgf2
เปิดบัญชีเทรด Bitaza ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3vEpNSK
เปิดบัญชีเทรด Binance ตามลิ้งค์นี้นะครับ
👉 https://bit.ly/3pIPkb0
ติดตามความรู้ ข่าวสารการลงทุน / ติดต่อโฆษณาประชาสัมพันธ์