การเทรด Forex ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนที่ต้องอาศัยการดูกราฟเทคนิค การวิเคราะห์ตลาดหรือการจัดการสภาวะจิตใจเท่านั้น เทรดเดอร์ที่มีฝีมือจนได้รับการยกย่องพวกเขายังต้องมีประสบการณ์ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ความล้มเหลวในหลากหลายรูปแบบ ประสบการณ์ล้ำค่าเหล่านี้เองที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้แก่พวกเขาจนกลายเป็นเช่นทุกวันนี้ และเพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเทรดเดอร์ทั้งมือเก่าและมือใหม่ ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับเทรดเดอร์ที่ได้รับการยกย่องว่ามีความเชี่ยวชาญและเก่งที่สุดในโลกทั้ง 6 คนกัน
4 ทักษะนักเทรด forex ระดับโลก ใช้จนประสบความสำเร็จ
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับเทรดเดอร์มือฉมังทั้ง 6 พวกเขาเหล่านี้ได้ถ่ายทอดทักษะที่สำคัญของการเทรดและสร้างให้พวกเขากลายเป็นเทรดเดอร์ที่มีชื่อเสียง โดยทักษะดังกล่าวมีดังนี้
วินัย: ทักษะความสามารถที่คุณต้องทำตามแผนการที่วางไว้โดยไม่ตื่นตูมไปกับสภาวะต่าง ๆ ของตลาด
การจัดการความเสี่ยง: ความสามารถในการทำความเข้าใจกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากทุกการซื้อขายและใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อจัดการลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด
ความกล้าหาญ: ความมั่นใจและความไว้วางใจในการวิเคราะห์ของตนเอง
ความเฉลียวฉลาด: ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ และตัดสินว่าสิ่งต่าง ๆ จะส่งผลต่อแนวโน้มของตลาดอย่างไรได้ตลอดเวลา
6 นักเทรด forex ระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับว่าเชี่ยวชาญและเก่งที่สุดในโลก
1. จอร์จ โซรอส
ในวงการเทรดเดอร์ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกับ จอร์จ โซรอส ผู้ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นพ่อมดทางการเงินผู้ยิ่งใหญ่โดยจุดเด่นสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในฐานะเทรดเดอร์ก็คือความเข้าใจอันยอดเยี่ยมในการวิเคราะห์แนวโน้มทางเศรษฐกิจที่เขาสามารถมองเห็นความไร้ประสิทธิภาพของตลาดและใช้มันในการสร้างประโยชน์ในการเทรด จอร์จ โซรอสเริ่มมีชื่อเสียงมาจากการเทรดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินปอนด์ซึ่งทำให้เขาได้กำไรกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 1992 และทำให้ระบบธนาคารในอังกฤษเกิดวิกฤติครั้งใหญ่ตามมา
ก่อนที่จะเกิดวิกฤตินี้อังกฤษได้เข้าร่วมมาตรการรักษาอัตราแลกเปลี่ยนของยุโรปหรือ ERM ส่งผลให้เกิดการตรึงราคาค่าเงินปอนด์ให้คงที่เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ๆ ในยุโรปและในขณะนั้นอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยในอังกฤษสูงกว่า 13% ซึ่งจอร์จ โซรอสเชื่อว่ามาตรการนี้ช่วยรักษาค่าเงินของอังกฤษให้สูงเกินจริง จอร์จ โซรอส มองเห็นโอกาสจึงค่อยทะยอยเข้าสะสมคำสั่งซื้อขายในตำแหน่ง short เอาไว้และแล้วเมื่อไม่สามารถพยุงค่าเงินได้อีกต่อไปในที่สุดอังกฤษก็ตัดสินใจถอนตัวออกจาก ERM ทำให้สกุลเงินปอนด์ลอยตัวและทำให้ค่าเงินปอนด์ลดลงซึ่งวิกฤติในครั้งนั้นเรารู้จักกันในชื่อ Black Wednesday
จอร์จ โซรอสเคยกล่าวเอาไว้ว่าความสำเร็จของเขานั้นเกิดจากการเรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดทุกคนควรนำไปใช้ เทรดเดอร์ที่เก่งทุกคนมีกจะมาพร้อมกับทักษะในการยอมรับความผิดพลาดของตนเองที่เกิดขึ้น
2. สแตนลีย์ ดรักเกนมิลเลอร์
สแตนลีย์ ดรักเกนมิลเลอร์เคยทำงานร่วมกับจอร์จ โซรอสที่กองทุน Quantum Fund ในตำแหน่งที่ปรึกษามากว่า 10 ปี เขามีชื่อเสียงขึ้นมาจากการสร้างมูลค่าให้กับ Duquesne Capital ซึ่งเขาก่อตั้งขึ้นกว่าพันล้านเหรียญ
อีกหนึ่งความสำเร็จที่โด่งดังของสแตนลีย์ ดรักเกนมิลเลอร์คือการมีส่วนร่วมกับโซรอสในเหตุการณ์ Black Wednesday นั่นเอง
สแตนลีย์ ดรักเกนมิลเลอร์กล่าวว่ากลยุทธ์ที่สำคัญของเขาที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในวงการ Forex คือการพัฒนาผลกำไรระยะยาวนั้นจะเกิดขึ้นจากแนวคิดในการรักษาทุนเอาไว้ เขาจะ take profit ให้มากที่สุดหากว่าการซื้อขายในครั้งนั้นทำงานได้อย่างที่เขาคาดการณ์และจะลดการขาดทุนอย่างเร็วที่สุดหากวิเคราะห์แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปอย่างที่เขาคาดการณ์ โดยกลยุทธ์นี้ก็คือการเพิ่มโอกาสเมื่อคุณวิเคราะห์ถูกทาง และลดความเสียหายให้เร็วที่สุดในสถานการณ์ที่คุณคิดผิด
สแตนลีย์ ดรักเกนมิลเลอร์เคยให้คำคมเกี่ยวกับการเทรดเอาไว้เมื่อครั้งที่เขาให้สัมภาษณ์หนังสือชื่อดังเรื่อง “The New Market Wizards” ว่า “มีรองเท้ามากมายวางอยู่บนหิ้ง จงสวมเฉพาะรองเท้าที่พอดีตัวเท่านั้น”
3. บิล ลิปชูตซ์
อีกหนึ่งตำนานเทรดเดอร์ไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก บิล ลิปชูตซ์ ที่กลายเป็นเทรดเดอร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลาย ๆ คน โดยจุดเริ่มต้นของเขาเกิดขึ้นในปี 1970 ในขณะที่เขายังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ซึ่งในตอนนั้นเขาได้รับมรดกกว่า 12,000 เหรียญหลังจากการเสียชีวิตของคุณยายและด้วยเงินจำนวนนี้เองบิล ลิปชูตซ์ได้เข้าสู่การเทรดครั้งแรกและเพิ่มมูลค่าให้แก่เงิน 12,000 เหรียญจนกลายเป็น 250,000 เหรียญได้อย่างน่าทึ่ง
ถึงตรงนี้ใคร ๆ ก็อาจคิดว่าเส้นทางการเทรดของเขาคงจะโรยด้วยกลีบกุหลายแต่นั้นไม่ใช่เลยเพราะจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้เขาต้องเสียเงิน 250,000 เหรียญไปทั้งหมด
เมื่อจบการศึกษาเขาเข้าร่วมกับ Salomon Brothers และในภายหลังเขาได้เข้าร่วมงานในแผนกแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและในปี 1985 เขาทำให้บริษัทมีรายได้เฉลี่ย 300 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ในปี 1995 บิล ลิปชูตซ์ก่อตั้ง Heathersage Capital Management ซึ่งเน้นการซื้อขายสกุลเงินของกลุ่มประเทศ G10 โดยเขาอธิบายว่า Forex เป็นตลาดที่มีจิตวิทยาสูง และเช่นเดียวกับผู้ค้า Forex ที่ประสบความสำเร็จรายอื่นๆ เขาเชื่อว่าการรับรู้ของตลาดมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคามากเท่ากับปัจจัยพื้นฐาน
นอกจากนี้เขายังมีมุมมองเดียวกันกับสแตนลีย์ ดรักเกนมิลเลอร์ที่ว่าการจะประสบความสำเร็จใน Forex ความสำเร็จของคุณขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์จากโอกาสที่คุณคิดถูกให้มากที่สุดซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยกล่าวไว้ว่าในการเทรด “คุณต้องคิดหาวิธีทำเงินจากการคาดการณ์ที่ถูกต้องเพียง 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”
4. แอนดรูว์ ครีเกอร์
แอนดรูว์ ครีเกอร์สำเร็จการศึกษาจาก Wharton School of Business และในปี 1986 ได้เข้าร่วม Bankers Trust หลังจากทำงานที่ Salomon Brothers
เขาเป็นเทรดเดอร์ที่มีสไตล์การเทรดที่ดุดันและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในยุคนั้นซึ่งเขาสร้างความประทับใจให้ผู้บริหารของบริษัทของเขามากเสียจนทำให้ผู้บริหารยอมปล่อยวงเงินเทรดให้แก่เขาที่ 700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าเลเวอร์เรจปกติ 50 ล้านดอลลาร์ถึงสิบสี่เท่า!
หลังเหตุการณ์ Black Monday แอนดรูว์ ครีเกอร์ มองว่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์มีมูลค่าสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น เขาจึงเริ่มเปิดคำสั่ง short เป็นมูลค่าหลายร้อยดอลลาร์และเมื่อเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดลงกว่า 5% ก็ส่งผลให้นายจ้างของเขาได้กำไรกว่า 300 ล้านดอลลาร์
5. พอล ทิวดอร์ โจนส์
พอล ทิวดอร์ โจนส์ เป็นอีกหนึ่งในเทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกคนหนึ่งโดยมีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์
ในปี 2519 หลังจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เขาเริ่มงานซื้อขายฝ้ายล่วงหน้าที่ New York Cotton Exchange แต่เพราะเขาเผลอหลับในระหว่างทำงานจึงถูกไล่ออก และในปี 2523 เขาได้ก่อตั้งบริษัท Tudor Investment Corporation ขึ้น เป็นบริษัทซื้อขายและลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทรวมถึงสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ และตราสารทุน
หนึ่งในความสำเร็จที่สุดของพอล ทิวดอร์ โจนส์คือการทำนายการล่มสลายของ Black Monday ผลพวงจากเหตุการณ์นี้ทำให้เขามีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าและมีรายได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์ตามมา
6. ไมเคิล มาร์คัส
ไมเคิล มาร์คัสเป็นเทรดเดอร์ที่มีชื่อเสียงอีกคนหนึ่ง โดยความสำเร็จของเขาคือการเปลี่ยนเงิน 30,000 ดอลลาร์ให้เป็น 80 ล้านดอลลาร์ภายในเวลา 20 ปี
ไมเคิล มาร์คัสเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งCommodities Corporation โดยปรัชญาการเทรดของเขาจะแนะนำให้เทรดเดอร์ใช้ความอดทนเป็นที่ตั้ง รวมถึงการจัดการเงินอย่างเหมาะสมซึ่งระดับความเสี่ยงที่เขาแนะนำและยอมรับได้คือไม่เกิน 5% โดยหลักคิดนร้เขากล่าวว่าจะทำให้นักลงทุนสามารถเกิดความผิดพลาดได้มากกว่า 20 ครั้งจึงจะเสียเงินลงทุนทั้งหมดไป
หากเราพิจารณาแนวทางการเทรดของเทรดเดอร์ทั้ง 6 คนที่ยกตัวอย่างมานั้นเราจะมองเห็นว่าสิ่งที่เป็นหลักยึดที่คล้ายคลึงกันคือการมองหาโอกาสที่ซ่อนอยู่และเมื่อเจอแล้วพวกเขาก็จะใช้โอกาสนี้ในการทำกำไรอย่างมหาศาล แต่ในทางกลับกันหากพวกเขามองเห็นแล้วว่าสิ่งที่คาดการณ์นั้นผิดไปจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาก็พร้อมที่จะ cut loss เพื่อรักษาต้นทุนเอาไว้ใช้เทรดครั้งต่อไป แนวคิดนี้คือแนวทางสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนจะต้องประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง