การเป็นเจ้าของธุรกิจคือความฝันของใครหลาย ๆคน แต่การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 อาจทำให้ความฝันต้องมีอันสะดุดลงเอาดื้อ ๆ เพราะการเริ่มต้นนับ 1 ในการสร้างธุรกิจใหม่นั้นลำพังอาศัยแต่ความอยากเป็นเจ้าของธุรกิจอย่างเดียวไม่พอ มันยังต้องการทั้งกำลังกายและกำลังใจอย่างมากที่จะประคับประคองอุ้มชูธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุผลเพียงข้อนี้ข้อเดียวก็อาจบั่นทอนกำลังใจของใครหลาย ๆคนลงจนแทบไม่เหลือ ธุรกิจแฟรนไชส์จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของผู้ที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจแต่ไม่ต้องการที่จะเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ ด้วยระบบที่ถูกวางเอาไว้ให้แฟรนไชส์ซีทำตามอย่างมีแบบแผนจึงทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์สร้างและสานความฝันให้แก่แฟรนไชส์ซีมานับไม่ถ้วน ต่อไปนี้คือเหตุผลที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนเริ่มต้นธุรกิจกับธุรกิจแฟรนไชส์ครับ
ใครบ้างที่มักจะลงทุนซื้อแฟรนไชส์
จากผลสำรวจพบว่า ผู้ที่ตัดสินใจเลือกลงทุนในแฟรนไชส์ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนในวัยกลางคนหรือผู้ที่เกิดในยุคของ baby boomers ขึ้นไปถึง 62% ในขณะที่ประชากรที่ถูกเรียกว่าคน Gen X จะมีสัดส่วนในการลงทุนในแฟรนไชส์รองลงมาที่ 30 % ในขณะที่หนุ่มสาวยุคใหม่ที่ถูกเรียกว่าคนในยุค Millennials จะมีสัดส่วนเพียง 8 % เท่านั้นที่เลือกลงทุนในแฟรนไชส์ เหตุผลหลักก็คือ “เรื่องของเงินทุน” ที่คนหนุ่มสาวยังไม่มีความพร้อมมากนักที่จะนำเงินมาลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ไม่เหมือนกับคนในช่วงอายุที่มากกว่าที่มีความพร้อมในด้านการเงินที่มากกว่านั่นเอง แต่จริง ๆแล้วคนในกลุ่ม Millennials ยังสามารถเลือกที่จะลงทุนในแฟรนไชส์ได้นะครับ เพราะในปัจจุบันมีแฟรนไชส์ดี ๆอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่ไม่ได้ต้องการเงินลงทุนเริ่มต้นที่สูงมากนัก หากคุณอยากที่จะลงทุนในแฟรนไชส์จริง ๆลองค้นหาแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับคุณดู คุณเองก็สามารถเป็นเจ้าของกิจการได้ตั้งแต่อายุยังน้อยไม่แพ้คนในวัยอื่น ๆครับ
ผลสำรวจที่น่าประหลาดใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือผู้ที่ตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของกิจการด้วยการลงทุนในแฟรนไชส์นั้นมีระดับการศึกษาเฉลี่ยที่สูงกว่าผู้ที่ตัดสินใจสร้างธุรกิจด้วยตนเอง โดยร้อยละ85 เป็นผู้ที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไป มีเพียงร้อยละ 15 ที่มีวุฒิการศึกษาต่ำกว่าปริญญา สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ที่เลือกลงทุนในแฟรนไชส์หลาย ๆคนมีอาชีพการงานตามวุฒิการศึกษามาก่อนที่จะผันตัวเองมาลงทุนในแฟรนไชส์และโดยส่วนใหญ่ก็มักจะพึ่งพาเงินเก็บของตนเองในการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์
ข้อได้เปรียบของการซื้อแฟรนไชส์ที่เหนือกว่าการลงทุนทำธุรกิจก็คือ “การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ง่ายกว่ากันมาก”
การเริ่มต้นธุรกิจใหม่นอกจากการบริหารจัดการที่น่าปวดหัว ที่เจ้าของกิจการต้องทำเองทุกอย่างตั้งแต่ขั้นตอนแรก อีกสิ่งหนึ่งที่น่าปวดหัวไม่แพ้กันก็คือ “การเข้าถึงแหล่งเงินทุน” ที่ยากกว่า เพราะสถาบันการเงินจะต้องทำการประเมินความเสี่ยงซ้ำแล้วซ้ำอีกจึงจะอนุมัติเงินกู้ให้แก่เจ้าของธุรกิจเกิดใหม่ครับ แต่สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์นั้น การเข้าถึงแหล่งเงินกู้คือข้อได้เปรียบที่คุณมีมากกว่าผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่อย่างมหาศาล นั่นก็เพราะสถาบันการเงินประเมินว่าธุรกิจแฟรนไชส์นั้นมีความมั่นคงที่สูงกว่านั่นเอง และยิ่งหากคุณเลือกที่จะลงทุนในแบรนด์ที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จัก ชื่อเสียงของแบรนด์นี้ก็จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่คุณอย่างไม่ต้องสงสัย
ธุรกิจที่แฟรนไชส์ส่วนใหญ่มักลงทุนมักจะเป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆอยู่แล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้คนมักมองข้ามในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ก็คือ ธุรกิจแฟรนไชส์คือธุรกิจที่ถูกวิจัยตลาดผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้ว และส่วนมากมักจะเป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแสและได้รับการตอบรับที่ดีมาก ๆรวมถึงเป็นที่ต้องการและมีกลุ่มลูกค้าที่รองรับอยู่แล้ว ด้วยข้อนี้คือสิ่งที่ทำให้แฟรนไชส์ได้เปรียบธุรกิจเกิดใหม่ไปอีกหลายก้าวครับ เพราะการสร้างธุรกิจใหม่คุณอาจต้องใช้เวลาในการวิจัยตลาดถึงความเป็นไปได้ที่ธุรกิจของคุณจะไปได้หรือไม่ และจำเป็นที่จะต้องหากลุ่มลูกค้าที่จะมาซื้อสินค้าของคุณด้วยตัวของคุณเอง แต่สำหรับแฟรนไชส์ คุณก็แค่รับเอากลุ่มลูกค้าที่ทางแฟรนไชส์มีแล้วและธุรกิจที่ผ่านการลองผิดลองถูกจนแน่ใจแล้วว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตแน่นอนเอามาบริหารจัดการสร้างผลตอบแทนอย่างที่คุณต้องการครับ ซึ่งธุประเภทของรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมีดังต่อไปนี้
– แฟรนไชส์สุขภาพ / ความงาม / ออกกำลังกาย
– แฟรนไชส์อาหารและร้านอาหาร
– บริการธุรกิจแฟรนไชส์ (เช่นการเตรียมภาษีหรือการตลาด)
– แฟรนไชส์ค้าปลีกทั่วไป
– บริการดูแลบ้าน (เช่นการดูแลสนามหญ้าหรือบริการแม่บ้าน)
ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น แฟรนไชส์เองก็ยังคงมีปัญหาให้ต้องจัดการเช่นกัน
แม้ว่าแฟรนไชส์จะเป็นรูปแบบธุรกิจที่มีการบริหารจัดการและวางระบบมาเป็นอย่างดี แต่กระนั้นก็ยังมีปัญหาบางประการที่ผู้ที่ลงทุนในแฟรนไชส์ยังต้องให้ความสนใจอยู่เช่นกัน ปัญหาที่ว่ามีดังนี้
– พนักงาน: หากคุณมีธุรกิจแฟรนไชส์ในการดูแลมากกว่าหนึ่งสาขา คุณก็อาจจำเป็นที่จะต้องหาพนักงานที่ไว้ใจได้และรู้งานเพื่อให้มาช่วยคุณทำงาน พนักงานดังกล่าวคือยอดพนักงานในฝันของธุรกิจที่คุณจำเป็นต้องสรรหาและรักษาเอาไว้ให้ได้
– การทำการตลาด: แม้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์จะมีฐานลูกค้าของตนเองในระดับหนึ่ง รวมถึงทางบริษัทแม่ก็มีการช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ส่วนหนึ่ง แต่กระนั้นหากคิดที่จะประสบความสำเร็จแฟรนไชส์ซีเองก็จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้การทำการตลาดโดยเฉพาะการตลาดออนไลน์เช่นกัน
– ค่าใช้จ่ายตายตัวอื่น ๆ: ค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ได้แก่ค่าเช่าสถานที่ เงินทุนหมุนเวียน ค่าวัตถุดิบรวมไปถึงค่าน้ำและค่าไฟ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้คือสิ่งที่ทางแฟรนไชส์ซีต้องบริหารจัดการให้ดีก่อนที่การลงทุนของคุณจะเสียเปล่าครับ
สำหรับผู้ที่อยากมีกิจการเป็นของตนเอง การลงทุนในแฟรนไชส์ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมากครับ หากคุณคิดจะลงทุนในแฟรนไชส์จริง ๆคุณต้องหาความรู้และให้เวลาในการเลือกแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับตัวเอง แล้วธุรกิจที่คุณลงทุนจึงจะเจริญเติบโตดั่งที่คุณต้องการครับ
