ทำไมมนุษย์เงินเดือนต้องลงทุน? ในเมื่อทำงานเป็นพนักงานที่มีเงินเดือนทุกเดือน สิ้นปีได้รับโบนัส และยังมีสวัสดิการต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยวประจำปี ฯลฯ เป็นคำถามที่หลายคนอาจสงสัย เราลองมาดูกรณีศึกษาของมนุษย์เงินเดือน 3 คน ได้แก่ ญาญ่า ณเดช และคิมเบอรี่ ที่มีการบริหารจัดการทางการเงินที่แตกต่างกัน
วิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 15000 แผนทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน
ญาญ่า เป็นมนุษย์เงินเดือน ใช้ชีวิตแบบทำงานไปด้วย ท่องเที่ยวไปด้วย แนวสโลว์ไลฟ์ ด้วยมีหลักคิดที่ไม่อยากลำบากวันนี้แล้วค่อยสบายวันหน้า เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีจริงหรือไม่ ในวันธรรมดาญาญ่าทำงานตามปกติ แต่พอถึงวันหยุดญาญ่าจะออกไปใช้จ่าย ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เข้าร้านกาแฟสตาร์บัค และเมื่อถึงปลายปีที่ได้รับโบนัสก็วางแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น หรือไต้หวัน ที่เป็นที่นิยมกัน หากช่วงนั้นมีสินค้าออกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือกระเป๋าแบรนด์เนม ก็จะใช้จ่ายไปกับสิ่งนั้น ญาญ่าไม่ได้วางแผนทางการเงินมากนัก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ญาญ่าก็จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับการออมทุกเดือน ๆ ละ 5,000 บาท โดยนำไปฝากไว้กับธนาคาร
ณเดช เป็นมนุษย์เงินเดือน มีความตั้งใจที่จะวางแผนทางการเงิน ณเดชมีหลักคิดที่จะยอมลำบากก่อนแล้วค่อยสบายทีหลัง แต่ณเดชรู้ดีว่าการออมเงินฝากไว้กับธนาคาร จะได้ดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งน้อยมาก ณเดชจึงเก็บเงินส่วนหนึ่งจากเงินเดือนงานประจำ แบ่งสัดส่วนเดือนละ 5,000 บาท นำไปลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
คิมเบอรี่ เป็นมนุษย์เงินเดือน มีการวางแผนการเงินที่ดีกว่าญาญ่าและณเดช คิมเบอรี่ยอมที่จะลำบากในวันนี้เพื่อที่จะได้สบายในภายหลัง ด้วยคิดว่าวันนี้ยังแข็งแรงสามารถทำงานได้ จึงอยากทำงานให้เต็มที่ เมื่อถึงเวลาเกษียณมีอายุมาก ไม่สามารถทำงานได้ ถึงตอนนั้นคิมเบอรี่ต้องการมีทั้งเงินและเวลา จึงแบ่งเงินออมเดือนละ 5,000 บาท เช่นกัน แต่วิธีการออมแตกต่างจากญาญ่าและณเดช
การออมเงินทุกเดือนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หลายคนใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างไม่มีเงินเก็บ ถึงแม้ว่าวันนี้การประหยัดอย่างเดียวจะไม่ทำให้เรารวยก็จริง แต่ก็เป็นรากฐานในวันข้างหน้า เพราะถ้าเราไม่ปลูกฝังนิสัยประหยัดอดออม ทำอย่างไรอนาคตเราก็ไม่มีทางรวย สมมติเรามีเงินเดือน 20,000 บาท แต่ใช้จ่าย 25,000 บาท หรือต่อให้รายได้เพิ่มเดือนละ 200,000 บาท หรือจะ 2,000,000 บาท แต่ค่าใช้จ่ายยังคงมากกว่ารายได้ ทำให้เกิดหนี้สิน จะเห็นได้ว่ารายได้จะมากแค่ไหนไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่อยู่ที่ว่าเรายังใช้จ่ายมากกว่ารายได้อยู่หรือไม่ ถ้ารายจ่ายยังเยอะกว่ารายได้ก็ไม่มีทางรวยได้อยู่แล้ว
ชีวิตหลังเกษียณแบบไหนดี? ญาญ่า ณเดช หรือคิมเบอรี่
ญาญ่า เลือกการออมเงินเก็บไว้ในธนาคารเดือนละ 5,000 บาท หนึ่งปีมีเงินเก็บ 60,000 บาท ญาญ่าทำงานตั้งแต่อายุ 22 – 60 ปี เมื่อถึงวัยเกษียณ ญาญ่าจะมีเงินเก็บ 2,340,000 บาท จากการทำงานมา 30 – 40 ปี ถ้าญาญ่ามีชีวิตอยู่ต่ออีก 20 ปี และหากมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องใช้เงิน เช่น พ่อหรือแม่ป่วยก็จะลำบากกับการใช้ชีวิตกับจำนวนเงินเก็บเพียงเท่านี้ เราอยากมีชีวิตแบบญาญ่าหรือไม่
ณเดช เลือกนำเงินออมไปซื้อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ได้ผลตอบแทน 7.5% ต่อปี จากที่ณเดชออมเดือนละ 5,000 บาท เมื่ออายุ 60 ปี ณเดชมีเงิน 12,568,270 บาท แล้วถ้าหลังจากอายุ 60 ปี ณเดชยังลงทุนต่อ โดยนำเงินจำนวน 12,500,000 บาท ไปลงทุนในกองทุนรวมเช่นเดิม ได้ผลตอบแทนปีละ 7.5% ณเดชจะมีเงินใช้ต่อปี ประมาณ 900,000 บาท หรือเดือนละเกือบ 80,000 บาท ณเดชมีชีวิตที่ค่อนข้างดีทีเดียว
คิมเบอรี่ เลือกที่นำเงินออมไปลงทุนในหุ้น ที่มีผลตอบแทนปีละ 20% โดยแต่ละปีคิมเบอรี่ไม่ได้เอาผลตอบแทนออกมาใช้ แต่นำไปลงทุนเพิ่ม หรือ re-invest ลงทุนซ้ำ ๆ เก็บเงินเพิ่มปีละ 60,000 บาท เมื่อคิมเบอรี่อายุ 60 ปี คิมเบอรี่จะมีเงิน 367,082,891 บาท ทั้งที่เก็บเงินจำนวนเท่ากับญาญ่าและณเดช เพียงแต่เปลี่ยนช่องทางการลงทุน แล้วถ้าหลังอายุ 60 ปี คิมเบอรี่ยังคงลงทุนในหุ้นอยู่ จากเงินจำนวน 360,000,000 บาท และทำกำไรได้ปีละ 20% ผลตอบแทนที่คิมเบอรี่ได้รับจะอยู่ที่ 72,000,000 บาท ต่อปี
การวางแผนทางการเงินของทั้งสามคน ที่เก็บเงินเหมือนกันในจำนวนเท่ากัน แต่ทำไมผลลัพธ์ตอนอายุ 60 ปี ไม่เหมือนกัน ก็เพราะว่าการวางแผนทางการเงินที่แตกต่างกัน
ถ้าเราอยากรวยต้องเริ่มต้นวางแผนทางการเงินตั้งแต่วันนี้ คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบไม่มีแผนไม่มีทิศทาง ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกับคนที่คิดแล้วมองไปข้างหน้าว่าอีก 5 ปี 10 ปี หรือ 15 ปี ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนของเรา แค่เรามีหลักคิดเหมือนคิมเบอรี่ ที่ให้ความสนใจกับผลตอบแทน 20% ของการลงทุนในหุ้น ถึงแม้จะไม่ง่าย แต่คิมเบอรี่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำอย่างไรถึงจะได้รับผลตอบแทน 20% นี้ได้ ถามอย่างคนชนะอย่างคนสำเร็จ ไม่ใช่คำถามที่จะทำอย่างไรให้ล้มเหลว จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้คิมเบอรี่ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เมื่อความรู้มากขึ้น สุดท้ายคิมเบอรี่ก็สามารถทำได้ 20% ต่อปี ผลตอบแทนยิ่งใหญ่และคุ้มค่าต่อการลงทุนศึกษาหาความรู้
วิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 15000 ในเมื่อวันนี้เรายังต้องทำงานประจำ ต่อให้เราไม่ชอบ แต่ถ้าเรายังไม่สามารถไปทำธุรกิจอย่างอื่นได้ ให้นำเงินที่ได้จากเงินเดือนไปลงทุนให้เงินนั้นงอกเงยขึ้นมา การนำเงินไปต่อเงินถือเป็นการกระทำที่ชาญฉลาดที่สุด ถึงเรายังเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ในเมื่อเรามีการวางแผนทางการเงินที่ดี ชีวิตเราดีแน่นอน
